
จับดินสอ…วาดเส้น…ลงกระดาษ
บรรจงวาด…สรรพสิ่ง…เท่าที่เห็น
มองทุกอย่าง…เท่าที่…มันจะเป็น
ใจเย็นเย็น…ขำ ขำ…ค่อยผ่อนคลาย
...

อันนี้ไม่เกี่ยวกะอัมพวา
...

...
อยากฟังนิทานหิ่งห้อยมั๊ยคะ
ถ้าอยากฟัง...เข้ามาใกล้ๆสิ
จะเล่าให้ฟัง...:)
ภาค 2, 3 กดเอาเองนะคะ
...
Trip นี้ มาแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเท่าไหร่ ประมาณว่าบ้านริมน้ำแม่น้ำท่าจีน
ปิดปรับปรุงชั่วคราวด้วยพระอาจารย์หนีไปบวช...ทิ้งเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์
ผู้ร้อนวิชาทั้งหลาย(เพราะเสียค่าเรียนไปก็มิใช่น้อยๆ)
ต่างก็แสวงหาที่ฝึกปรือฝีมือ จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่า...ที่นี่ล่ะว่ะ...อัมพวา
เราไปพักกันที่...กนกรัตน์รีสอร์ท...ที่นี่เหมาะสำหรับปลีกวิเวกจริงๆ
มี...Wireless ให้ใช้ฟรี กาแฟฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าของก็น่ารัก อัธยาศัยดี
http://www.kanokratresort.com/
...

...

วันแรกของการวาดรูป
ได้เริ่มเอาก็บ่ายแก่ๆไปแล้ว วิว...ป่าจาก...ที่เลือกมาเป็นแบบวาดยากชะมัด ไม่ประสบความสำเร็จและเละไปพร้อมกับสายฝนที่ตกมาอย่างหนัก ในเมื่อทำไรไม่ได้มากนัก ถ่ายรูปเล่นน่าจะเป็นทาง
ออกที่ดีที่สุดในตอนนั้น ตอนเย็นฝนเริ่มซา เราออกไปทานข้าวกันที่ตลาดน้ำอัมพวา
โดยจองเรือพายเอาไว้กับทางรีสอร์ท เรือพายลำนี้เป็นเรือขุดเก่าแก่อายุพอๆกะ ลุงสำเนียก ซึ้งเป็นเจ้าของ หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็ได้เวลาไปดูหิ่งห้อย ตลอดระยะเวลาที่พายเรือไปลุงสำเหนียกทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์อัมพวาไปด้วยในตัว เวลาพายเรือผ่านบ้านเรือนไทยริมน้ำสวยๆหลายหลังแกก็เล่าประวัติบ้านนั้นๆให้ฟัง
ลุงแกเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลคุยได้ทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องการเมือง แกเล่าให้ฟังว่าเดี๋ยวนี้มีเรือพายพานักท่องเที่ยวมาดูหิ่งห้อยน้อยลงและนำเรือยนต์มาแทนที่เพราะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้หลายรอบ แต่ก็ทำความรำคาญให้กับชาวบ้านแถวนั้นถึงกับตัดต้นลำพูทิ้งไปเลยก็มี
บางครั้งก็สอดแทรกคำสอน+ธรรมะแบบบ้าน บ้านในเรื่องการทำหากินให้ฟังว่า...จำไว้นะหนู อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา...และอื่นๆอีกเยอะแยะ
จนกระทั่งมาถึงทางแยกที่จะกลับไปรีสอร์ทที่พักแต่แกบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปดูหิ่งห้อยที่เยอะกว่านี้ ว่าแล้วก็พายเรือตรงไปในเส้นทางที่เรือยนต์เข้าไปไม่ถึง เวิ้งน้ำในส่วนนั้นนิ่ง สงบเพราะมีเรือพายอยู่ลำเดียว หิ่งห้อยบริเวณนี้จะมากกว่าในส่วนอื่นๆที่นั่งเรือผ่านมา ลุงบอกว่าจะเรียก...หิ่งห้อยให้ลงมาจากต้นลำพูให้ลงมาหาพวกเรา...ว่าแล้วก็พายเรือเข้าไปใกล้ต้นลำพู ไม่ถึงอึดใจฝูงหิ่งห้อยก็บินลงมารายล้อมพวกเราที่อยู่บนเรือ เป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดเลย เสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้ ถามแกว่า...ลุงทำได้งัยอ่ะค่ะ แกบอกว่า...มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์ เอากะแกสิ
คืนนั้นอิ่มตา อิ่มใจ นอนหลับสนิท
วันที่ 2
เช้าวันนี้ทางรีสอร์ทเตรียมอาหารไว้ให้ใส่บาตร นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ใส่บาตรพระตอนเช้า ชาติก่อนเราคงเคยทำบุญร่วมกัน ชาตินี้ถึงได้มีโอกาสมาทำบุญร่วมกันอีก วันนี้อากาศดีมากๆ เราเตรียมอุปกรณ์มาวาดรูปกันต่อ หลังจากเมื่อวานรูปเละไปพร้อมกับสายฝนแล้ว วันนี้เปลี่ยนใจเอาสีไม้มาวาด ฝึกลงน้ำหนัก วิธีนี้ก็ดีเหมือนกันรูปไม่เสร็จก็เอามาทำต่อที่บ้านได้ ช่วงบ่ายตระเวณเที่ยววัดและตลาดน้ำในอัมพวา
...
ส่วนรูปหุ่นนิ่งดอกไม้นั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องเปิ้ลชวนไปวาดที่นครปฐม
เพราะกลุ่มเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกันมา เค้านัดกันเลยได้รูปดอกไม้มาอีกรูป
44 ความคิดเห็น:
งามค่ะ..
อัมพวา ถ่ายรูปขึ้นจริงๆครับ
ขลังดีค่ะ
อืม...ค่ำๆก็สวยไปอีกแบบเน๊อะ
ทั้งภาพวาดและเงาสะท้อน...ธรรมชาติ งามนักๆ
อนุภาพแห่งศรัทธา...
ร้างเหรอคะ โหยยยย น่าเสียดาย น่าอยู่
โชคดีไม่เละไปพร้อมกับสายฝนค่ะ
คนเยอะมาก ถ่ายรูปไม่ได้อย่างใจเลยค่ะ
เสียดายถ่ายรูปตอนไปดูหิ่งห้อยไม่ได้
มันมืดมากค่ะ
บ้านนี้ของตระกูล ณ บางช้าง
เป็นเราหน่อยไม่ได้ จะเอามาทำเป็นโฮมสเตย์เลย
เห็นเพลงลาสาวแม่กลองแล้ว คิดถึงเรื่องที่คุยกะแท๊กซี่ที่ว่า ป้อมพระจุลฯอยู่ไหน?
แล้วมันอยู่ตรงไหนอ่ะ...ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเคยเห็นนะ
ตอนนั้นไปล่องเรือ ต้องไปลงเรือที่ปากน้ำ รู้สึกจะอยู่ริมปากน้ำมั๊ง
ผมไปเถียงกะแท๊กซี่ว่า ป้อมฯหน่ะอยู่สมุทรสงคราม แต่ปิ๊งแรกเค้าบอกอยู่พระประแดง 55555
ลองไปฟังเพลงให้จบสิพี่ แล้วจะรู้ว่าป้อมฯอยู่ที่ไหน? ฮ่าๆๆๆๆ
ภาพนี้น่ารัก ตุ๊กตาปั้นก็น่ารัก...เห็นแล้วนึกถึงความฝันของตัวเอง (คนไม่รักเด็ก) ที่จะเปิดร้านหนังสือเด็กแล้วนั่งเล่านิทานให้เด็กๆฟังจังแฮะ :D
ดูสงบจัง...น่าไปนอนแผ่เล่นบนหญ้า :)
น่ารักจังค่ะ :)
ป้อมพระจุลจอมเกล้า" หรือที่นิยมเรียกขานกันโดยทั่วไปว่า “ป้อมพระจุลฯ” ตั้งอยู่บริเวณริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อยู่ห่างจากแยกพระสมุทรเจดีย์ ไปตามถนนสุขสวัสดิ์ประมาณ ๖ กิโลเมตร
...
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีการสร้างป้อมที่เมืองสมุทรปราการ ตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีประมาณ ๒๑ ป้อม ทั้งนี้มีเป้าหมายที่ไทยเราเฝ้าระวังป้องกันข้าศึกที่มาจากญวนและชาติตะวันตก พื้นที่ที่ใช้ในการสร้างป้อมปราการจะอยู่เรียงราย ๒ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอพระสมุทรเจดีย์จนถึงท้องที่อำเภอพระประแดงในปัจจุบัน
my dream house la na ni
=)
so nice orange flowers =)
โอย...โดนใจ...ฮิฮิฮิ
ชอบภาพนี้ค่ะ
เสียดายไม่ได้ไปด้วย ... ไม่ได้จับพู่กันเรยเคอะ...ไปไล่จับฉลามมาแทน
สวยมากๆครับ อย่างนี้น่าจะชอบเรียนกับอาจารย์นุกูล
ไปเรียนกันมั๊ย
สวยงาม
มากๆ เหงาๆ แต่ สู้ ทน นะเนี่ยะ
ชอบบบบบบบ
บรรยากาศดีจัง
ชอบบบบบบจัง เก่งจัง
ชอบเหมือนกัน อยากอยู่บ้านเรือนไทย
ที่เห็นขาวๆนั้น น้ำค้างค่ะ ถ้าลงไปนอนก็เปียกพอดี :)
ไว้...คราวหน้าแล้วกันนะคะ
เราชวนแล้วนา
สวัสดีครับ บ้านนี้ไม่มีGuestbookงะเลยไม่รู้จะมาทักที่ไหน รูปสวยครับ
เอ่อ...หาไม่เจอใช่มั๊ยล่ะ แอดไปแล้วนะคะ :)
ชอบค่ะภาพนี้
พี่ก็เคยไปชมหิ่งห้อยที่อัมพวา บรรยากาศดีนะคะ
:)...ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีกค่ะ
ช่วงหน้าฝน หิ่งห้อยจะเยอะค่ะ( เค้าว่ามาอ่ะค่ะ )
วันก่อนอ่านแมกกาซีนเก่า เจอคอลัม เพลงดาบพาเที่ยวรร.สีน้ำนี้ด้วย
นึกถึงคุณปุ๊เลย
หัดเขียนหนังสือมั้งดีกว่า...เผื่อจะดังอย่างเพลงดาบ
ว่าเข้าไปนั่น...555
...
อัมพวา คืนนี้ เงียบสงัด
พี่พายงัด เรือน้อย ลอยสู้ฝน
จากปากคลอง ผีหลอก ใจวกวน
หนาวเหลือทน หนาวยิ่งกว่า หนาวหัวใจ
...
มายุให้พี่ปุ๊เขียนหนังสือค่า....เขียนเลยพี่
อ่ะ...พี่บ้ายออยู่ด้วยนา
เดี๋ยวทำหนังสือ...ทำมือ...ให้ไก่อ่านประเดิม
เอาฤกษ์เอาชัยก่อนดีมั๊ยเนี่ย ทำปก...วาดภาพประกอบ...เองเสร็จสรรพ
จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อเลย...ค่ะ^o^
แสดงความคิดเห็น