ได้รับ...Fw. เมล์ฉบับนี้มา ตอนนี้เรื่องนี้กำลังอยู่ในความสนใจของตัวเองพอดี ในฐานะที่เป็นเด็กหลังรามมาก่อน ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แถวรามมาเกือบ 10 ปี เดินเข้าออกรามคำแหงทุกวัน ไอคำขวัญที่ติดไว้ที่กำแพงด้านหน้ามหาลัยนะ...เห็นจนมันซึมเข้าไปในสมอง
ฉันเยาว์...ฉันเขลา...ฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมาย
ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว
เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้งหรือจึงมุ่งมาศึกษา
เพียงเพื่อปริญญาเอาตัวรอดเท่านั้นฤๅ
แท้ควรสหายคิดและตั้งจิตร่วมยึดถือ
รับใช้ประชาคือปลายทางเราที่เล่าเรียน
...
ลืมแล้วหรืออย่างไรท่านอธิการบดี?
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี...หายไปไหนหมด
หรือท่านสะกดคำพวกนี้ไม่เป็น
เดี๋ยวนี้รามคำแหงผลิต...ด๊อก...(เตอร์)กันแบบนี้แล้วเหรอ...เวรแท้ๆ
...
เอ่อ...วันนี้ขอบ่นหน่อยนะคะ...ว่าจะไม่แล้วเชียว
ไม่อยากเอาการเมืองมาปนกะงานอดิเรกที่แทบจะเป็นงานประจำในมัลติพลายนี้หรอกนะคะแต่รับไม่ได้เจง เจง ตรูเรียนปริญาตรีแทบตายกว่าจะจบ ไอบ้านี่...เอาเงินยัด ก็ได้แล้ว ประเทศไทยหนอ ประเทศไทย
จดหมายจากเพื่อนร่วมรุ่น เป็ดเฉลิมมหาวิทยาลัยรามคำแหง
หัวหมาก กรุงเทพฯ
12 มิถุนายน 2551
เรื่อง ขอชี้แจงข้อเท็จจริงการได้มา ' ดร. ' ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
เรียน คุณ สนธิ ลิ้มทองกุล และเพื่อนพันธมิตร
ด้วยดิฉันและเพื่อนนักศึกษาปริญญาเอก ( PhD) ม.รามคำแหง รุ่น 1 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ขอร่วมให้ข้อมูลจะได้เข้าใจชัดเจนมากขึ้นว่า ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ได้ ' ดร. ' มาอย่างไร
ประเด็นที่ 1. ไม่เคยมานั่งเรียนเลย แต่สอบผ่านทุกวิชา
วิชาบังคับ ( Course-work) 4 วิชา เรียน 1 ปีเต็ม ดิฉันและเพื่อนมาเรียนทุกครั้งไม่เคยเห็นหน้า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงเข้าเรียนเลยแม้แต่ Class เดียว ( ตามระเบียบขาดเรียน 3 ครั้งไม่มีสิทธิสอบผ่านวิชานั้น)
ประเด็นที่ 2. ใช้อภิสิทธิ์ในการสอบเหนือนักศึกษาปริญญาเอกทั่วไปทุกครั้ง
- คณะอาจารย์ที่ปรึกษาของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุงเท่านั้น เป็นอาจารย์ที่จบปริญญาโทเป็นที่ปรึกษา ( ตามระเบียบที่ปรึกษานักศึกษาปริญญาเอกต้องเป็นอาจารย์ที่เป็น ดร.เท่านั้นถึงจะสง่างามและเป็นที่ยอมรับของสังคมนานาชาติ)
- ในการสอบนำเสนองานวิจัยต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 คนมาสอบ ( ตามระเบียบสภามหาวิทยาลัย) แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงใช้ผู้ทรงคุณวุฒิคนเดียวเท่านั้น ดิฉันและเพื่อนๆ ได้เข้าไปดูการสอบในวันนั้นไม่รู้ว่าทำได้อย่างไรทั้งที่ผิดระเบียบ
- ในการสอบทุกครั้ง นักศึกษาต้องเสนองานวิจัยด้วยตนเองเท่านั้น แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงคนเดียวที่ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่เป็น ต้องเอาผู้ช่วยมาช่วยกด PowerPoint แทน ซึ่งเป็นการผิดระเบียบในการสอบ นักศึกษาทั่วไปทำไม่ได้
ประเด็นที่ 3. ในการสอบภาษาอังกฤษ
ดิฉันและเพื่อนนักศึกษาปริญญาเอกทุกคนรุ่นเดียวกันไม่เคยเห็น ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง มาสอบภาษาอังกฤษทั้ง TOEFL และ RU. Test ไม่รู้ว่าเขาสอบผ่านมาได้ตอนไหน ทุกคนงงทั้งรุ่นเลยค่ะ ( ตามระเบียบนักศึกษาปริญญาเอกทุกคนต้องสอบผ่านภาษาอังกฤษจึงจะจบเป็น ดร. ได้)
ประเด็นสุดท้าย จบไม่ได้ ย้าย ผอ.โครงการเลย
หัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง เรื่อง ' ปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ศึกษากรณีอำนาจหน้าที่ กกต. ' งานวิจัยนี้เป็นเรื่องด่า กกต. ล้วนๆ ทั้งหมด 277 หน้า งานวิจัยนี้ไม่ถูกต้องตามระเบียบวิธีวิจัย ผอ.โครงการเห็นว่างานไม่สมบูรณ์ ไม่ให้ผ่านโดยให้ไปแก้ไขหลายครั้ง แต่ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ไม่พอใจ ได้ร่วมมือกับอธิการบดี ( รังสรรค์ แสงสุข) เปลี่ยนตัว ผอ.โครงการปริญญาเอก หลังจากนั้นไม่นาน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงก็จบ ดร.ได้อย่างสมใจ
ดิฉันและเพื่อนนักศึกษาปริญญาเอกรุ่น 1 ทุกคนมีวุฒิภาวะและศักยภาพในอาชีพการงานทุกคน ทั้งข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารในองค์กรเอกชน ขอบอกความจริงว่าทั้ง 4 ประเด็นที่กล่าวมา เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ในโครงการปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย
นักศึกษาปริญญาเอก รุ่น 1 ม.รามคำแหง
ปัญญาชนที่รักประเทศชาติและความเป็นธรรม