...
เคยอ่านบทความที่...พี่จิก ประภาส...เขียนไว้ในมติชน เมื่อหลายปีก่อน
เคยซื้อ...เท่าดวงอาทิตย์...มาอ่าน เมื่อหลายเดือนก่อน
เมื่อหลายวันก่อน เข้าร้านหนังสือเพราะอยากได้หนังสือของนันทขว้างมาอ่าน จู่ๆ
หนังสือของ...พี่จิก ประภาส...ก็หล่นมากองอยู่ตรงหน้า
" แมงกะพรุนถนัดซ้ายกับกบเหลาดินสอ "
เหมือนจะบอกว่า...ช่วยหยิบฉันไปอ่านหน่อยเถอะ
หยิบ...แมงกะพรุนถนัดซ้าย...ขึ้นมาพลิกๆดู
มีบทความในหนังสือเล่มนี้หลายบท...สะดุดตา+สะดุดใจ
พลันนึกไปถึงคำพูดของใครบางคน
" คุยกะคุณปุ๊ เหมือน คุยกะ พี่จิก ประภาส เลยครับ ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกันดีจริงๆ "
ตัดสินใจซื้อหนังสือสองเล่มมาอ่าน เพียงเพราะอยากรู้ว่า...เหมือนตรงไหน?
...
ชอบบทความในหนังสือ...แมงกะพรุนถนัดซ้าย...อยู่บทหนึ่งคือ ตัวต้านทาน
ที่พี่จิกตอบจดหมายของผู้หญิงคนหนึ่ง ไปสมัครงานเอาไว้ที่บริษัทแห่งหนึ่งและจะไปเริ่มงานในอีกไม่นาน แต่ได้ทราบจากคนรู้จักว่า...บริษัทนี้ไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ ฟังแล้วเกิดความวิตกกังวลและกลัวจะมีอคติกับบริษัทก่อนไปทำงาน
พี่จิกให้ความเห็นส่วนหนึ่งไว้ว่า...คนส่วนใหญ่ที่ใจยังไม่กว้างพอ มักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ให้คนอื่นเป็นดาวเคราะห์คอยหมุนรอบ นั่นคือไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็จะสรุปออกมาโดยยึดเอาตัวเองเป็นพระเอกเป็นนางเอกแล้วก็ให้คนอื่นเป็นตัวอิจฉาหมด
...
...
คนโบราณจึงสอนว่าอย่าหูเบา ถ้าอยากทำงานที่นั่นก็ให้ทำไป อย่าให้แค่เรื่องเล่ามาหยุดความตั้งใจของเรา ถ้าทำไปแล้ว ทนไม่ได้ก็ลาออก แล้วถือเป็นประสบการณ์ดีๆอันหนึ่งที่ได้เรียนรู้คนหลากหลายประเภท
...
หลังจากอ่านจบ
พลันก็นึกไปถึงคำถามของใครบางคนขึ้นมา...ที่บังเอิญไปรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงบางคน,บางกลุ่ม,ที่ประพฤติตัวเป็นพวก One night stand จากคำบอกเล่าของเพื่อนๆที่ประสบมา
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันก็...อึ้ง...ไปกับคำถามพอสมควร
...
...
พลันนึกไปถึงเรื่องราว...ของเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันผ่านเว็บบอร์ดสีเทาๆเว็บหนึ่ง ที่แต่งงานกับหญิงสาวที่เคยเป็น...หมอนวด...มาก่อน ที่สำคัญหญิงสาวผู้นี้ก็เคยถูกเพื่อนๆในบอร์ดแห่งนั้น...ขึ้น...มาแล้ว อะไร ทำให้น้องคนนี้ตัดสินใจแต่งงานกับหญิงสาวที่ผ่านชายมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
เรื่องแบบเนี่ยใช้...หัวสมอง...ตอบไม่ได้หรอก ต้องใช้...หัวใจ ...ตอบ
...
...
มีอีกบทความหนึ่งชื่อว่า...มายาพระจันทร์ ที่เขียนเกี่ยวกับพระจันทร์ เอาไว้ว่า มนุษย์ส่วนใหญ่แล้วมองพระจันทร์ด้วยอารมณ์เศร้า เหงา หรือไม่ก็ออกไปทางสิเน่หา ฝรั่งนั้นหนักถึงขนาดไปทางโศกมากกว่าสุข คำว่า Moon ในแสลงนี่มีความหมายเป็นเรื่องความโศกาว้าเหว่แทบทั้งนั้น อย่างเช่น Moon around ที่แปลว่าไร้สุขในรัก หรือ Moon away ที่แปลว่าปล่อยชีวิตไปวันๆ ในเรื่องความรัก
...
พี่จิก ประภาส เขียนเอาไว้ว่า
น่าสนใจนะครับว่าทำไมพระจันทร์จึงถูกมองเช่นนั้น ...มันมีความบังเอิญหลายอย่างที่ทำให้พระจันทร์เป็นดวงดาวที่เจ้ามายาที่สุด
...
...
หลากหลายความบังเอิญที่พี่จิกเขียนไว้...จนกระทั่ง
ถึงตอนนี้ ถ้ามีชายหนุ่มที่กำลังมีความรักมาอ่านเจอเรื่องราววันนี้เข้า ก็คงจะเพ้อว่า ที่แท้ผู้หญิงก็คือพระจันทร์นั่นเอง เพราะนอกจากจะงดงาม แฝงปริศนาชวนค้นหาแล้ว เธอยังไม่ยอมให้ใครเห็นอีกด้านหนึ่งของเธอเสมอ และเวลามองเธอครั้งใด น้ำในร่างกายก็ขึ้นทุกที
...
...
อ่านจบสรุปเอาดื้อๆ
ถ้าเราตกหลุมรักพระจันทร์เสียจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว
เราก็ต้องยอมรับในด้านมืดของพระจันทร์…ให้ได้
.